สารในแหล่งน้ำธรรมชาติ
ดังที่ทราบแล้วว่าในโลกนี้มีน้ำอยู่ประมาณ 3 ใน 4 ส่วน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำในมหาสมุทรถึงร้อยละ 97.41 ที่เหลือประมาณร้อยละ 2.59 จะเป็นน้ำจืด แต่น้ำจืดที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงนั้นมีเพียงร้อยละ 0.014 เท่านั้น เนื่องจากเป็นน้ำแข็งและภูเขาน้ำแข็งร้อยละ 1.984 และอีกร้อยละ 0.592 เป็นน้ำใต้ดิน
1. หยาดน้ำฟ้า (precipitation) เป็นน้ำที่ได้จากบรรยากาศ เช่น น้ำฝน น้ำค้าง หิมะ ลูกเห็บ เมฆ หมอก ไอน้ำ เป็นต้น
2. น้ำผิวดิน (surface water) เป็นน้ำที่ได้มาจากน้ำในแม่น้ำ ลำคลอง ทะเลสาบ ทะเล และมหาสมุทร เป็นต้น
มลพิษทางน้ำและการจัดการ
มลพิษทางน้ำ (water pollution) หมายถึง ภาวะของน้ำที่มี มลสาร (pollutant) ปนเปื้อนในระดับที่ทำให้คุณภาพน้ำเปลี่ยนไปจนมนุษย์และสิ่งมีชีวิตไม่สามารถใช้ประโยชน์จากน้ำได้
การใช้ทรัพยากรน้ำของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน ตลอดจนในการประกอบอาชีพและการอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นการเพิ่มมลสารในแหล่งน้ำ ดังนั้นแหล่งที่มาของน้ำเสียแต่ละแหล่งจึงเป็นสาเหตุทำให้น้ำเสียได้หลายลักษณะดังจะกล่าวต่อไป
แหล่งที่มาของน้ำเสีย
1. จากธรรมชาติ เกิดจาการย่อยสลายซาดพืชและซากสัตว์ และสารอินทรีย์ในแหล่งน้ำโดยจุลินทรีย์ ซึ่งจุลินทรีย์มีการใช้แก๊สออกซิเจนไปช่วยในการย่อยสลาย มีผลทำให้ปริมาณแก๊สออกซิเจนในแหล่งน้ำนั้นลดลง นอกจากนี้อาจเกิดจากกระบวนการชะล้างพังทลายของดินทำให้ตะกอนดินถูกพัดพาลงในแหล่งน้ำ ทำให้แหล่งน้ำนั้นขุ่นข้น สิ่งมีชีวิตต่างๆในแหล่งน้ำไม่สามารถดำรงชีวิตได้ และยังทำให้แหล่งน้ำนั้นตื้นเขินอีกด้วย ดังภาพที่ 23-4
2. จากแหล่งชุมชนได้แก่ น้ำเสียที่มาจากแหล่งที่พักอาศัยและสถานประกอบการต่างๆ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ร้านค้า ตลาด เป็นต้น น้ำจากแหล่งต่างๆเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีสารอินทรีย์ เชื้อโรคและสารเคมีเป็นองค์ประกอบ
3. จากโรงงานอุตสาหกรรม เป็นน้ำเสียที่เกิดจากน้ำที่มาจากกระบวนการต่างๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น น้ำจากการชะล้างสิ่งสกปรกของเครื่องจักร พื้นโรงงาน น้ำจากกระบวนการผลิตที่มีสารเคมีและโลหะที่เป็นอันตรายเจือปนอยู่ เช่น สารปรอท ตะกั่ว แคดเมียม แมงกานีส โครเมียม และน้ำมัน น้ำทิ้งเหล่านี้เมื่อปนเปื้อนอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติจะเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ และทำให้เกิดการสะสมสารพิษในโซ่อาหารได้ นอกจากนี้น้ำทิ้งที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมประเภทผลิตอาหารจะมีสารอินทรีย์เจือปนอยู่สูง เมื่อปล่อยลงสู่แหล่งน้ำทำให้แหล่งน้ำนั้นเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็นอันเนื่องมาจากกระบวนการย่อยสลายของจุลินทรีย์ในน้ำ และบางครั้งทำให้แหล่งน้ำมีอุณหภูมิสูงด้วย
4. จากการเกษตรและอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ เป็นน้ำเสียที่มีการปนเปื้อนของสารเคมี วัตถุมีพิษที่ใช้ป้องกันและกำจัดศัตรูพืชของเกษตรกร รวมทั้งการใช้ปุ๋ยเคมีหลายชนิด เพื่อเพิ่มผลผลิต ทำให้มีมลสารตกค้างในน้ำ ดิน อากาศ และในผลผลิต เมื่อฝนตกสารเหล่านี้จะถูกชะล้างลงสู่แห่ลงน้ำทำให้สิ่งมีชีวิตในน้ำได้รับอันตราย นอกจากนี้ในอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ เช่น การเลี้ยงสุกร ไก่ ปลา และกุ้ง ยังเป็นต้นกำเนิดของน้ำเสียที่เกิดจากการล้างคอกสัตว์เลี้ยงหรือบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งมีสารอินทรีย์เจือปนอยู่สูง
5. จากการทำเหมืองแร่ การทำเหมืองแร่ประเภทต่างๆ เช่น การทำเหมืองแร่ดีบุก พลวง และเหมืองพลอย ต้องมีการขุดเจาะดินขึ้นมาจึงทำให้เกิดตะกอนดินและทำให้น้ำในแหล่งน้ำขุ่นข้น นอกจากนี้อาจมีอาการปนเปื้อนของโลหะหนักจำพวกปรอท ตะกั่ว แคดเมียมลงสู่แหล่งน้ำ และยังเป็นสาเหตุทำให้แหล่งน้ำตื้นเขินได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น